กสิกรไทย เปิดตัวแคมเปญ “สติ” เตือนคนไทยสู้ภัยกลโกงออนไลน์

ธนาคารกสิกรไทย เปิดตัวแคมเปญ “สติ” เตือนคนไทยใช้สติป้องกันภัยกลโกงออนไลน์ที่เกิดขึ้นสูง

พร้อมพัฒนาระบบการปฏิบัติงาน เทคโนโลยี บุคลากร และร่วมมือข้ามธนาคาร เสริมความแข็งแกร่งรับมือภัยคุกคามทางไซเบอร์ ควบคู่กับการให้ความรู้แก่ลูกค้าเพื่อใช้บริการการเงินทางอิเล็กทรอนิกส์อย่างปลอดภัย พบปี 61 มีการแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีคดีที่ใช้ระบบคอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือ 973 คดี เสียหายกว่า 500 ล้านบาท 

นายพิพิธเอนกนิธิกรรมการผู้จัดการธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า  ในยุคที่โลกเชื่อมโยงด้วยเทคโนโลยีและระบบคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือยิ่งทำให้เกิดความเสี่ยงของภัยไซเบอร์ (Cyber Threat)  โดยมิจฉาชีพหรือแฮกเกอร์ (Hacker) มีวิธีการหลอกลวงหลากหลายรูปแบบและซับซ้อนมากขึ้น ทั้งการโจรกรรมข้อมูล หลอกลวงหรือการยักยอกเงิน โดยในรายงานความเสี่ยงระดับโลกประจำปี 2019 (Global Risks Report) ของสภาเศรษฐกิจโลก (World Economic Forum) ระบุว่าการโจมตีทางไซเบอร์ขนาดใหญ่ (Large Scale Cyber Attack) ถือเป็น 1 ใน 10 ความเสี่ยงที่สำคัญระดับโลก และเป็นความเสี่ยงสำคัญของระบบการเงินของโลกและไทย  นอกจากนี้  ปัจจุบันประชาชนนิยมใช้งานสื่อโซเชียลในการติดต่อสื่อสาร ทำธุรกรรมทางการเงิน โอนเงินชำระค่าสินค้าหรือซื้อขายผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งมิจฉาชีพเองก็อาศัยช่องทางเหล่านี้ในการหลอกลวงหรือฉ้อโกงเงินมากขึ้นตามไปด้วย 

“ธนาคารกสิกรไทย ตระหนักถึงภัยไซเบอร์ดังกล่าว จึงได้พัฒนาทั้งด้านระบบการปฏิบัติงาน เทคโนโลยีและนวัตกรรมต่าง ๆ ตลอดจนศักยภาพของบุคลากร เพื่อรองรับภัยคุกคามทางไซเบอร์ ซึ่งรวมถึงการป้องกัน การติดตามตรวจจับ การรับมือ และการเยียวยาฟื้นฟู เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ใช้บริการของธนาคาร นอกจากนี้ยังได้ให้ความสำคัญกับการให้ความรู้แก่ลูกค้าถึงวิธีการใช้บริการการเงินทางอิเล็กทรอนิกส์อย่างปลอดภัยด้วย”  นายพิพิธ กล่าว

ล่าสุด ธนาคารกสิกรไทย ได้ออกแคมเปญ “สติ” รณรงค์ให้คนไทยมีสติ ไม่ตื่นตระหนกเมื่อเจอเหตุการณ์ที่อาจตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพในโลกออนไลน์ ผ่านแฮชแท็กที่จำได้ง่ายๆ คือ #ใช้สติป้องกันสตางค์ โดยมุ่งเน้น 3 ภัยไซเบอร์ที่มีประชาชนตกเป็นเหยื่อบ่อยครั้ง ได้แก่ 

  1) ฟิชชิ่ง (Phishing) เทคนิคหลอกลวงทางอีเมล SMS หรือหน้าเว็บไซต์ปลอม โดยสร้างสถานการณ์ให้ลูกค้าที่ตกเป็นเหยื่อเกิดความตื่นตระหนก หรือเข้าใจผิดว่าได้รับผลประโยชน์บางอย่าง จนนำไปสู่การกดลิงก์เพื่อหลอกให้กรอกข้อมูลสำคัญ หรือเปิดไฟล์แนบที่มีโปรแกรมประสงค์ร้ายและนำไปสู่ความเสียหายต่าง ๆ กับเหยื่อ เช่น นำชื่อบัญชีและรหัสผ่านไปเข้าระบบออนไลน์ แบงกิ้งและโอนเงินออกจากบัญชี หรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของเหยื่อเพื่อสวมตัวตนสมัครใช้บริการทางการเงิน 

2) การหลอกลวงทางสื่อสังคมออนไลน์ โดยมิจฉาชีพจะแอบอ้าง หรือสวมตัวตนเป็นเหยื่อ แล้วไปทำทุจริต หรือหลอกลวงบุคคลอื่นจนทำให้เกิดความเสียหาย โดยเหยื่อที่ถูกหลอกลวงอาจจะสูญเงินในบัญชี และบุคคลที่ถูกสวมตัวตนอาจตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่ากระทำความผิด ซึ่งอาจถูกลงโทษทางกฎหมายได้

3) แก๊งคอลเซ็นเตอร์ เป็นขบวนการหลอกเหยื่อทางโทรศัพท์โดยสร้างสถานการณ์ให้เหยื่อเกิดความตื่นตระหนก หรือเข้าใจผิดว่าได้รับผลประโยชน์บางอย่าง หากเหยื่อหลงเชื่อและทำตามที่มิจฉาชีพบอก อาจเกิดความเสียหายถึงขั้นถูกหลอกให้โอนเงินจนหมดบัญชี หรือถูกหลอกให้บอกข้อมูลของบัตรเครดิต เพื่อนำไปซื้อสินค้าออนไลน์ จนทำให้เจ้าของบัตรเครดิตเป็นหนี้โดยไม่รู้ตัว

ภัยไซเบอร์ถือเป็นภัยใกล้ตัวที่เกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตประจำวันของคนไทยมากยิ่งขึ้น ในปี 2561 ประเทศไทยพบคดีที่เกี่ยวกับการกระทำผิด ซึ่งมีระบบคอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือ จำนวน 973 คดี คิดเป็นร้อยละ 35 ของคดีที่มีการแจ้งความทั้งหมดกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) มีมูลค่าความเสียหายมากกว่า 500 ล้านบาท โดยมีรูปแบบครอบคลุมตั้งแต่การหลอกขายสินค้า หลอกโอนเงินผ่านอีเมล หลอกโอนเงินผ่านโทรศัพท์  ปลอมเป็นบุคคลอื่นเพื่อหลอกโอนเงิน ด้วยวิถีชีวิตที่มีเทคโนโลยีเป็นส่วนหนึ่ง ทำให้มิจฉาชีพใช้กลโกงหาช่องทางและสร้างสถานการณ์ต่าง ๆ ทำให้คนหลงเชื่อ และคิดว่าตนเองจะได้รับผลประโยชน์มากมายได้โดยง่าย การที่ #ใช้สติป้องกันสตางค์ จึงถือเป็นเครื่องมือสำคัญ ในการป้องกันกลโกงจากภัยไซเบอร์ที่จำเป็นสำหรับทุกคน ทั้งนี้ ธนาคารกสิกรไทยจะมีการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร สาระความรู้ด้านการใช้บริการทางการเงินบนโลกออนไลน์อย่างปลอดภัยอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันแก่คนไทยผู้ใช้งาน สามารถติดตามได้ที่ https://www.kasikornbank.com/th/personal/Digital-banking/KBankCyberRisk/Pages/index.aspx

###

About naruethai

Check Also

Facebook อัปเดตฟีเจอร์ ช่วยให้ผู้ใช้ควบคุมสิ่งที่แชร์และค้นพบบนแพลตฟอร์มได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

วันนี้ Facebook แนะนำเครื่องมือที่ปรับปุงใหม่เพื่อช่วยให้คุณควบคุมสิ่งที่แชร์ไปยังฟีดข่าวได้มากขึ้น โดยผู้ใช้สามารถเลือกได้ว่าใครสามารถแสดงความคิดเห็นในโพสต์สาธารณะของคุณได้บ้าง ซึ่งคุณสามารถควบคุมกลุ่มเป้าหมายที่จะเข้ามาแสดงความคิดเห็นสำหรับโพสต์สาธารณะของคุณได้แล้ว โดยเลือกจากเมนูที่มีให้ ซึ่งสามารถเลือกได้ตั้งแต่ทุกคนที่เห็นโพสต์ไปจนถึงเลือกเฉพาะบุคคลและเพจที่คุณแท็ก

เอชพี พลิกโฉมประสบการณ์ลูกค้า เปิดโชว์รูมเสมือนจริงแห่งแรกในประเทศไทย

นำเสนอนวัตกรรมพีซีและพรินเตอร์ล้ำสมัย ผ่านประสบการณ์โต้ตอบแบบอินเทอร์แอคทีฟ เอชพี อิงค์ เผยโฉม HP virtual showroom โชว์รูมเสมือนจริงแห่งแรกในประเทศไทย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างประสบการณ์เสมือนจริงให้กับลูกค้า ครอบคลุม 6 ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะนำลูกค้าเข้าสู่โลกเสมือนจริงที่ทันสมัย สัมผัสประสบการณ์ด้านเทคโนโลยีที่หลากหลายตามความต้องการใช้งานที่แตกต่าง