กรุงเทพ, 8 มิ.ย. 2563 – ในควอเตอร์แรกของปี 2563 ยอดจำหน่ายสมาร์ตโฟนอยู่ที่ 3.6 ล้านเครื่อง ลดลง 29.8% ไตรมาสต่อไตรมาส และ 20.6% ปีต่อปี
เป็นปกติที่ในไตรมาสแรกของทุกปีเป็นฤดูกาลลดลงของยอดจำหน่ายสมาร์ตโฟน อย่างไรก็ตามการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบรุนแรงต่อตลาด
หลายแบรนด์ได้รับผลกระทบจากการขาดสินค้าในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ตามมาด้วยประกาศปิดเมืองในเดือนมีนาคมทำให้การจำหน่ายของหน้าร้านย่ำแย่ลง
แบรนด์สมาร์ตโฟนและค่ายโทรคมนาคมปรับตัวต่อการหยุดชะงักของหน้าร้านโดยเปลี่ยนไปทำกิจกรรมการขายและการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นออนไลน์มาเก็ตเพลส โซเชียลมีเดีย แต่ในขณะเดียวกันไม่ใช่ทุกร้านค้าสามารถปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ถึงแม้ว่าช่องทางออนไลน์มีการเติบโตแต่ไม่สามารถชดเชยส่วนที่เสียโอกาสไปจากหน้าร้าน
แม้ว่าขณะนี้กิจกรรมของหน้าร้านเริ่มทยอยกลับสู่ปกติแต่ IDC คาดว่ายอดจำหน่ายสมาร์ตโฟนยังคงลดลงอีกครั้งในไตรมาสที่ 2 และจะเริ่มเติบโตในไตรมาสที่ 3 นี่เป็นผลการทบที่ตามมาจากโควิด-19 ต่อเศรษฐกิจที่ผู้บริโภคลดการใช้จ่าย
ส่วนแบ่งทางการตลาดของแบรนด์ 5 อันดับแรกในไตรมาสที่ 1
ภาพรวมของแบรนด์ 5 อันดับแรก
ออปโป้ เป็นผู้นำในตลาดด้วยรุ่น A ที่ได้รับความนิยม ออปโป้ยังคงเน้นในด้านการบริการหลังการขาย โปรโมทฟีเจอร์ในรุ่นที่ราคาสูงและการขยายตลาดไปยังกลุ่มสินค้าประเภท IoT
ซัมซัง ยังคงเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดด้วย Galaxy รุ่น A แต่เนื่องจากผลกระทบจากโรคระบาดทำให้ยอดจำหน่ายลดลงในไตรมาสที่ 1
วีโว่ เน้นไปที่รุ่น Y ซึ่งอยู่ในช่วงราคาที่ตอบสนองต่อตลาดไทยและเพิ่มการสนับสนุนคู่ค้าและกิจกรรมการตลาด
หัวเว่ย ยังคงจำหน่ายได้ดีในรุ่นที่มีการรองรับกลุ่มแอปพลิเคชั่นของ “กูเกิล” และช่วยโปรโมทหน้าร้านของคู่ค้าบนโซเชียลมีเดียระหว่างช่วงปิดเมือง
แอปเปิ้ล ได้รับผลกระทบจากในด้านของซัพพลายในหลายๆรุ่น แต่ด้วยภาพลักษร์ที่แข็งแรง ยังคงสามารถจำหน่ายในระดับที่สูงในตลาดไทย
###