เปิดตัวแอปพลิเคชันด้านการศึกษา “StartDee” โรงเรียนออนไลน์แห่งแรก ที่ใช้เทคโนโลยีปลดล็อคข้อจำกัดการศึกษาไทย เปิดเทอมให้เด็กนักเรียนทุกคน เรียนฟรีพร้อมกันทั่วประเทศ 18 พ.ค.นี้

หากพูดถึงระบบการศึกษาไทย คงจะปฏิเสธไม่ได้ถึงความแตกต่าง และความไม่เท่าเทียมในระบบการเรียนการสอนของแต่ละโรงเรียน เปรียบเทียบให้เห็นภาพอย่างง่ายคือ โรงเรียนที่มีชื่อเสียงขนาดใหญ่ มีผลการเรียนที่เทียบเท่ากับโรงเรียนชั้นนำระดับโลก ในขณะที่โรงเรียนขนาดเล็กกว่า 15,000 แห่ง อาจจะขาดแคลนอุปกรณ์การเรียนการสอน หรือคุณครูที่มีไม่เพียงพอสำหรับทุกระดับชั้น ซึ่งหากเด็กไทยทั่วประเทศกว่า 8 ล้านคนได้รับการศึกษาที่เหมือนกันความเหลื่อมล้ำระหว่างคนที่รวยที่สุดกับคนที่จนที่สุดจะลดลงได้ถึง 39% (ข้อมูลจาก UNESCO) นี่จึงเป็นโจทย์ใหญ่ที่ทำให้ คุณไอติมพริษฐ์วัชรสินธุผู้ก่อตั้งและซีอีโอหนุ่มรุ่นใหม่บริษัทเอ็ดดูเคชั่นเทคโนโลยีจำกัดเร่งพัฒนาแอปพลิเคชันด้านการศึกษา “StartDee” ที่เปรียบเสมือน “Netflix ของการศึกษาไทย” โดยนำเทคโนโลยีมาบูรณาการ ส่งเสริม และใช้ควบคู่ไปกับการเรียนการสอนในโรงเรียน เพื่อให้เด็กนักเรียนทั่วประเทศ สามารถเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพได้อย่างทั่วถึงที่สุด และพร้อมรับมือกับอนาคตการศึกษาไทยหลังโควิด-19 ที่จะพัฒนาสู่ new normal กับพฤติกรรมการเรียนที่เปลี่ยนไป

StartDee จุดเริ่มต้นที่ดีของทุกคน

StartDee เริ่มต้นด้วยภารกิจที่ต้องการปลดล็อกข้อจำกัดการศึกษาไทยแบบเดิม ด้วยการนำเทคโนโลยีแห่งอนาคตผสานเข้ากับการเรียนในโรงเรียน โดยมุ่งสู่เป้าหมายเพื่อให้เด็กไทยทุกคนเข้าถึงการศึกษาที่ดี ภายใต้ 3    เสาหลัก ประกอบด้วย 1. มีคุณภาพ (Quality) 2. ราคาไม่สูง (Affordable) 3. เข้าถึงง่าย (Available)

การศึกษาที่ดีเท่ากับคุณภาพที่ดี 

เนื้อหาไม่จำกัดทุกที่ทุกเวลา (Unlimited content anywhere, anytime) สำหรับทุกระดับชั้น ตั้งแต่  ป.1 – ม.6 ครอบคลุมทุกวิชาหลักในโรงเรียน และทักษะสำหรับอนาคต ผ่านประสบการณ์เรียนรู้รูปแบบใหม่ที่เน้นการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ใช้ (Interactive Learning Journey) และมีการพัฒนาเนื้อหาอย่างต่อเนื่องจากความคิดเห็นผู้เรียน (Data-driven content) เพื่อนำไปสู่การสร้างการเรียนรู้แบบเฉพาะบุคคล (Personalized Learning) ที่มีรายงานผลการเรียนรายบุคคล เนื้อหาที่ถูกดัดแปลงให้ตรงกับความต้องการนักเรียนที่แตกต่างกัน ผ่านการขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี AI 

ฉีกรูปแบบการเรียนการสอนแบบเดิมๆเมื่อกลุ่มเป้าหมายหลักคือเจนเนอเรชันซี(GenZ)

เมื่อต้องสื่อสารและออกแบบรูปแบบการเรียนการสอนให้เหมาะกับกลุ่มเจนซี ซึ่งเป็นกลุ่มที่อยู่ใกล้ชิด และมีความกระตือรือร้นในการใช้เทคโนโลยีในยุคดิจิทัลมากที่สุด มีพฤติกรรมการใช้สมาร์ทโฟนหลายชั่วโมงต่อวัน ชอบความท้าทาย และพัฒนาทักษะใหม่ๆ อยู่เสมอ รวมถึงรักในการเชื่อมต่อกับเพื่อนใหม่ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ การเรียนรู้จึงจำเป็นต้องสนุก (Gamified Learning) ด้วยเนื้อหาที่มีความบันเทิงแต่มีสาระ (Edutainment) การเรียนที่เปรียบเสมือนการเล่นเกม มีรางวัลให้นักเรียน ช่วยเพิ่มแรงจูงใจในการเรียน และการเรียนรู้ร่วมกัน (Social Learning) ผ่านการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ (Community) การแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างนักเรียน กิจกรรมพบปะเพื่อนใหม่ เพื่อให้นักเรียนได้มีโอกาสรู้จักกันจากทั่วประเทศ จึงเป็นหนึ่งในกลยุทธ์หลักที่ StartDee นำมาใช้

แม้ของฟรีไม่มีบนโลกแต่ของดีที่ถูกและเข้าถึงง่ายมีที่ StartDee

ราคาที่ไม่สูง (Affordable) เป็นหนึ่งในโจทย์หลักที่ StartDee ให้ความสำคัญ เพราะราคาที่จับต้องได้ จะช่วยเชื่อมโยงให้เด็กนักเรียนทั่วประเทศ ทุกโรงเรียน ทุกฐานะความเป็นอยู่ สามารถเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพได้อย่างทั่วถึงที่สุด เพียงชำระค่าสมาชิกรายเดือนหรือรายปีครั้งเดียว ก็สามารถเข้าถึงบทเรียนได้ครบทุกวิชาอย่างไม่จำกัด ในราคาเริ่มต้นเพียง 200 – 300 บาทต่อเดือน ซึ่งถูกกว่าทางเลือกในการเรียนแบบอื่นถึง 10-15 เท่า และเพื่อเป็นการลดช่องว่างในการขาดหายไปจากการเรียนรู้ในช่วงที่โรงเรียนถูกเลื่อนเปิดเทอม StartDee จึงเปิดให้เด็กไทยเรียนฟรี! โดยไม่มีค่าใช้จ่ายระหว่างวันที่ 18 พฤษภาคมถึง 30 มิถุนายน 2563 พร้อมการเข้าถึงการเรียนการสอนได้อย่างง่าย (Available) ผ่านสมาร์ทโฟนทุกรุ่น รองรับทุกระบบ ทั้ง iOS และ Android ประหยัดข้อมูลกว่าเว็บดูวิดีโอทั่วไป ถึง 2 เท่า พร้อมฟรี! อินเทอร์เน็ต และซิมการ์ด จาก เอไอเอส

เจาะลึกฟีเจอร์หลักแอปฟลิเคชัน StartDee ที่เปรียบเสมือนห้องเรียนต่างๆในโรงเรียนออนไลน์รองรับการใช้งานกับตามความต้องการที่หลากหลายของเด็กนักเรียนไทย 

 ตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคมนี้ 

  1. StartDee Room ( .1 – .6 ) ห้องเรียนที่อัดแน่นไปด้วยหลายร้อยบทเรียนใน 7 วิชาหลักของนักเรียนระดับชั้นมัธยม ทั้งในรูปแบบวิดีโอที่ปรับระดับความเร็วในการเรียนได้ แบบฝึกหัดที่วัดความเข้าใจ ชีทสรุปบทเรียน และอื่น ๆ อีกมายมาย ที่จะช่วยให้นักเรียนสามารถทบทวนบทเรียนได้ด้วยตัวเองตามความต้องการได้อย่างไม่จำกัด โดยจะมีการเพิ่มเนื้อหาใหม่ๆ ทุกสัปดาห์ ถือเป็นห้องหลักของ แอปพลิเคชัน StartDee เลยทีเดียว
  2. StartDee Daily Class คลาสเรียนประจำวัน ติวเสริมสำหรับนักเรียนระดับชั้น ม.3 และ ม.6 ที่จะมีการสอบระดับชาติในปลายปีการศึกษา โดยมีการนำบทเรียนมาจัดเรียงเป็นตารางเรียนทุกเช้า วันจันทร์ – ศุกร์ เริ่มเวลา 9.30 น. ที่ครอบคลุมเนื้อหาครบทุกวิชาหลัก และคั่นด้วยรายการพักสมองสนุกๆ
  3. StartDee Live Class คลาสเรียนสด ที่เป็นคลาสพิเศษเสริมในบางวัน โดยมีทั้งเนื้อหาวิชาการในหลักสูตรและความรู้หรือทักษะนอกหลักสูตร ตามกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลกในศตวรรษที่ 21 

นอกจากนี้ StartDee ยังมีแผนการพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ที่เสมือนเป็นห้องแห่งการเรียนรู้เพิ่มขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น StartDee Room สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 , StartDee Room สำหรับทักษะแห่งอนาคต, Personal Development Room การพัฒนาความรู้ความสามารถรายบุคคล, Game Room ห้องเกม และ Social Room ห้องแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างนักเรียนด้วยกัน

ทดสอบจากการใช้งานจริงจากเด็กนักเรียนทั่วประเทศ ทุกสายการเรียนทุกรูปแบบสังกัดโรงเรียน

กว่าจะมาเป็นแอปพลิเคชัน StartDee ที่ออกมาพร้อมให้ดาวน์โหลด ได้ผ่านการคิดค้น พัฒนา และสำรวจจากการทดลองใช้งานจริงจากกลุ่มตัวอย่างเด็กนักเรียนไทยทั่วประเทศ 37 โรงเรียน จากทั้ง 4 ภูมิภาค โดยพบว่าเด็กนักเรียนมีความคิดเห็นหลักออกเป็น 4 ประเด็น คือ 1. แอปพลิเคชัน ออกแบบให้ใช้งานง่าย 2. เนื้อหากระชับ สอนเข้าใจง่าย 3. ช่วยเพิ่มแรงจูงใจในการใช้เวลาให้เป็นประโยชน์กับการเรียน 4. ช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงการศึกษากับเด็กทั่วประเทศ โดยมีตัวอย่างความคิดเห็นจากนักเรียนรุ่นที่ 1 ของ แอปพลิเคชัน StartDee ดังเช่น 

เป็นแอปการเรียนที่น่าสนใจมากๆเพราะมีรูปแบบที่ทันสมัยเป็นแอปที่ดึงดูดสายตาค่ะ

(น้องมะนาว, กรุงเทพฯ)

เรียนกับคุณครูที่โรงเรียนผ่านวิดีโอคอลครูยังสงสัยว่าหนูไปรู้เรื่องบทเรียนมาจากไหนในระยะเวลา 1 เดือนที่ใช้แอปนี้(น้องแพร, ขอนแก่น) 

ในช่วงแรกผมก็ไม่คิดว่าในหนึ่งแอปจะทำได้ถึงขนาดนี้พี่ๆทำให้ผมได้ใช้เวลาให้เกิดประโยชน์มากยิ่งขึ้น เพราะได้ใช้เวลานั้นในการแสวงหาความรู้ (น้องบาส, เชียงราย) 

ทำคลิปสอนดีๆกระชับทำให้ไม่ต้องเสียเวลาไปดูคลิปในยูทูปยาวๆเลยค่ะ (น้องนิ้ง, พัทลุง)

เสริมแกร่งจากพันธมิตรภาครัฐเอกชนร่วมขับเคลื่อนอนาคตการศึกษาไทย 

StartDee ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ทั้งจากภาครัฐและเอกชน ในการผนึกกำลังร่วมกันขับเคลื่อนอนาคตการศึกษาไทย ให้เด็กนักเรียนทั่วประเทศสามารถเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพได้อย่างทั่วถึงที่สุด เริ่มจาก  

  • เอไอเอส (AIS) ด้วยการนำจุดแข็งทางด้านโครงข่ายดิจิทัลพื้นฐาน (Digital Infrastructure) มาช่วยสนับสนุนอินเทอร์เน็ตเพื่อการศึกษา ร่วมพัฒนาคอนเทนต์ด้านทักษะดิจิทัล พร้อมแผนความร่วมมือระยะยาวร่วมกันในเชิงนวัตกรรม พร้อมกับร่วมสนับสนุนการเข้าถึงการศึกษาอย่างเท่าเทียมโดยการแจก “ซี้ดซิม” (ZEED SIM) ที่มากับการใช้อินเทอร์เน็ตโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายให้กับน้องๆ ที่ใช้บริการแอปพลิเคชัน StartDee อีกด้วย 
  • การีนา (Garena) ดิจิทัลแพลตฟอร์มระดับโลกที่คนออนไลน์ และคอเกมรู้จักกันเป็นอย่างดี ได้เข้ามาร่วมสนับสนุนทุนการศึกษา ร่วมพัฒนาทักษะรอบด้านให้เยาวชนพร้อมรับมือความเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัล รวมไปถึงส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้นอกห้องเรียนและการเรียนรู้ตลอดชีวิต
  • ในส่วนของภาครัฐ StartDee ได้รับความร่วมมือจาก กสศ. (กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา) ในการร่วมทำงานวิจัยเพื่อศึกษาประสิทธิภาพของการเรียนรู้ในรูปแบบออนไลน์สำหรับนักเรียนกลุ่มเป้าหมายที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ทางการศึกษา รวมทั้งโรงเรียนอีกหลายแห่งทั่วประเทศ ที่เข้าร่วมทดลองใช้งานและพัฒนาแอปพลิเคชัน 

เตรียมเปิดเทอมพร้อมกันทั่วประเทศวันที่ 18 พฤษภาคมนี้บนแอปพลิเคชันด้านการศึกษา “StartDee” iOSดาวน์โหลดได้ที่ App Store (https://apple.co/3diWevO) Android ดาวน์โหลดได้ที่ Play Store (https://bit.ly/2WasAlx) พร้อมร่วมสนุกลุ้นรับ StartDee Box ของขวัญชิ้นพิเศษจาก StartDee จำนวน 18 รางวัลในวันเปิดเทอม ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม www.facebook.com/startdeethailand และ http://startdee.com 

About naruethai

Check Also

Facebook อัปเดตฟีเจอร์ ช่วยให้ผู้ใช้ควบคุมสิ่งที่แชร์และค้นพบบนแพลตฟอร์มได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

วันนี้ Facebook แนะนำเครื่องมือที่ปรับปุงใหม่เพื่อช่วยให้คุณควบคุมสิ่งที่แชร์ไปยังฟีดข่าวได้มากขึ้น โดยผู้ใช้สามารถเลือกได้ว่าใครสามารถแสดงความคิดเห็นในโพสต์สาธารณะของคุณได้บ้าง ซึ่งคุณสามารถควบคุมกลุ่มเป้าหมายที่จะเข้ามาแสดงความคิดเห็นสำหรับโพสต์สาธารณะของคุณได้แล้ว โดยเลือกจากเมนูที่มีให้ ซึ่งสามารถเลือกได้ตั้งแต่ทุกคนที่เห็นโพสต์ไปจนถึงเลือกเฉพาะบุคคลและเพจที่คุณแท็ก

เอชพี พลิกโฉมประสบการณ์ลูกค้า เปิดโชว์รูมเสมือนจริงแห่งแรกในประเทศไทย

นำเสนอนวัตกรรมพีซีและพรินเตอร์ล้ำสมัย ผ่านประสบการณ์โต้ตอบแบบอินเทอร์แอคทีฟ เอชพี อิงค์ เผยโฉม HP virtual showroom โชว์รูมเสมือนจริงแห่งแรกในประเทศไทย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างประสบการณ์เสมือนจริงให้กับลูกค้า ครอบคลุม 6 ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะนำลูกค้าเข้าสู่โลกเสมือนจริงที่ทันสมัย สัมผัสประสบการณ์ด้านเทคโนโลยีที่หลากหลายตามความต้องการใช้งานที่แตกต่าง