ก้าวล้ำ! แพทย์และวิศวกรไทย ร่วมวิจัยกระดูกขากรรไกรไทเทเนียม
ช่วยผู้ป่วยลดผ่าตัดซ้ำ พร้อมดันเป็นสินค้านวัตกรรมของประเทศ

ในแต่ละปีมีผู้ป่วยหลายร้อยรายทั่วประเทศที่ต้องทนทุกข์ทรมานจากความเจ็บป่วยจำเป็นต้องนำมาสู่การรักษาโดยการศัลยกรรมกระดูกขากรรไกรซึ่งส่วนใหญ่มีสาเหตุจากเนื้องอกหรือมะเร็งบริเวณใบหน้าช่องปากและลำคอที่กัดกินลึกลงไปถึงเนื้อกระดูกโดยที่โรงพยาบาลศิริราชเพียงแห่งเดียวมีผู้ป่วยในลักษณะนี้ราว 100 – 200 รายต่อปีรองลงมาคือการติดเชื้อหรือการฉายรังสีที่ทำให้กระดูกผุกร่อนง่ายและอุบัติเหตุที่ทำให้มีการสูญเสียกระดูกขากรรไกร

ผศ.นพ.จงดีอาวเจนพงษ์อาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญหัวหน้าสาขาศัลยศาสตร์ตกแต่งคณะแพทยศาสตร์ศิริราชมหาวิทยาลัยมหิดลเล่าถึงโจทย์สำคัญของงานวิจัยครั้งนี้ว่า สิ่งสำคัญที่สุดในการรักษาคือการทำให้ผู้ป่วยกลับมามีใบหน้าที่ปกติอีกครั้งซึ่งจะส่งผลให้ระบบทางเดินหายใจทำงานได้ปกติอ้าปากหรือเคี้ยวอาหารได้คล่องขึ้นจากที่ผู้ป่วยต้องทนทุกข์ทรมานจากการสูญเสียกระดูกบางส่วนหรือต้องตัดกระดูกกรามล่างออกไปทั้งหมดโดยการรักษาที่ผ่านมาหลังจากผ่าตัดส่วนที่เสียหายออกไปแล้วก็จะใช้วิธีย้ายกระดูกจากส่วนอื่นในร่างกายร่วมด้วยวัสดุทดแทนกระดูกซึ่งการผ่าตัดแต่ละครั้งกินเวลายาวนานต้องใช้ทีมแพทย์ถึงสองทีมวัสดุทดแทนกระดูกที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันแพทย์ก็ต้องเหลาหรือขัดเกลาให้ให้พอดีจึงจำเป็นต้องมีการผ่าตัดเพื่อปรับปรุงแก้ไขอีกอย่างน้อย 2-3 ครั้งค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดครั้งแรกจะอยู่ที่ราว 100,000 – 200,000 บาทส่วนการปรับปรุงแก้ไขในครั้งต่อๆไปก็จะลดหลั่นลงตามการรักษาของแต่ละบุคคล

แม้ว่าผู้ป่วยจะสามารถรับผิดชอบค่าใช้จ่ายได้ แต่สิ่งที่ไม่อาจเลี่ยงได้คือการต้อง ‘ผ่าตัดซ้ำ’ ซึ่งนำมาสู่การต้องฟื้นฟูหลังผ่าตัดซ้ำๆ และการพักรักษาก็อาจส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตและการทำงาน จึงนำมาสู่ ความร่วมมือวิจัยนวัตกรรมชุดเครื่องมือศัลยกรรมกระดูกขากรรไกร อันผสานความรู้ทางวิศวกรรมและการแพทย์เข้าด้วยกัน ใช้การออกแบบจากคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีการพิมพ์สามมิติที่แม่นยำกับใบหน้า และวัสดุไทเทเนียมที่มีความปลอดภัยสูง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษา

ผศ.ดร.บุญรัตน์โล่ห์วงศ์วัฒนจากภาควิชาโลหการคณะวิศวกรรมศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงจุดเริ่มต้นของการผสานองค์ความรู้ข้ามศาสตร์นี้ ว่า ผมเป็นอาจารย์สอนที่มหาวิทยาลัยและทำการวิจัยเกี่ยวกับการขึ้นรูปโลหะนำความรู้โลหการไปพัฒนาอุตสาหกรรมต่างๆเช่นยานยนต์เครื่องประดับได้นำเทคโนโลยีการพิมพ์สามมิติมาใช้ในการขึ้นรูปและเริ่มต้นงานวิจัยเกี่ยวกับไทเทเนียมมาตั้งแต่ปี 2554 หลังจากที่รู้สึกว่าการทำงานในแบบเดิมไม่เติมเต็มความรู้สึกลึกๆที่อยากจะทำอะไรสักอย่างเพื่อก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเองจึงเริ่มติดต่อไปหาแพทย์หลายท่านและได้รับความร่วมมือจึงเกิดโครงการวิจัยจนในที่สุดได้นำผลการวิจัยไปใช้ในการรักษาซึ่งผมยังจำได้ดีถึงความรู้สึกในวันที่อาจารย์หมอโทร. มาบอกว่าการผ่าตัดครั้งแรกประสบความสำเร็จมันกลายเป็นแรงขับเคลื่อนให้เราไม่หยุดที่จะพัฒนาต่อยอดรูปแบบการรักษานี้ให้ดีขึ้นในทุกๆวัน

ด้วยความมุ่งมั่นที่พัฒนาการรักษาและคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในแวดวงวิศวกรรม จึงนำมาสู่การก่อตั้ง บริษัทเมติคูลี่จำกัดสตาร์ทอัพจากรั้ววิศวะจุฬาฯที่มองเห็นว่านวัตกรรมที่ได้นี้จะมีความยั่งยืน ก็ต่อเมื่อมีความแพร่หลายในการใช้ เกิดรายได้ที่จะนำมาหมุนเวียนและต่อยอด โดยท้ายที่สุดแล้วต้องทำให้คนไทยเข้าถึงกระดูกไทเทเนียมที่มีคุณภาพสูงในการรักษา ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล แตกต่างจากผลิตภัณฑ์นำเข้าที่ใช้กันในปัจจุบัน

ผศ.นพ.จงดีแสดงความมั่นใจต่อความร่วมมือวิจัยในครั้งนี้ว่า ที่ผ่านมามีการศึกษานวัตกรรมนี้อย่างจริงจังประกอบกับการตรวจสอบมาตรฐานในหลายๆมาตรฐานและการรับรองจากสถาบันที่เชื่อถือได้จนมั่นใจว่าการรักษาด้วยกระดูกไทเทเนียมนี้จะส่งผลดีในทุกๆด้านในช่วง 1 – 2 ปีที่ผ่านมามีผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยกระดูกไทเทเนียมนี้นับร้อยเคสในหลายๆส่วนของร่างกายโดยพบว่าจำนวนครั้งของการผ่าตัดซ้ำลดลงอย่างมีนัยสำคัญและมีการติดตามผลการรักษาต่อเนื่อง

ความร่วมมือวิจัยนี้ถูกประเมินแล้วว่ามีความเป็นไปได้สูงที่จะประสบความสำเร็จตามเป้าหมายแต่ก็มีความท้าทายทั้งในแง่ที่ต้องสอดคล้องไปกับการรักษาของทันตแพทย์ในแง่การนำที่นวัตกรรมชุดเครื่องมือศัลยกรรมกระดูกขากรรไกรไปใช้ได้จริงและในแง่การสร้างองค์ความรู้ในการใช้งานซึ่งทั้งหมดนี้จะนำไปสู่ความแพร่หลายของการรักษาที่ยกระดับขึ้นในวงกว้าง

คำกล่าวที่ว่า ‘คนไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก’ ดูจะกลายเป็นรูปธรรมขึ้นอย่างชัดเจน หลังการสนทนากับทั้งสองฟากฝั่งความร่วมมือสะท้อนให้เห็นปณิธานอันแน่วแน่และการลงมือทำอย่างมีเป้าหมาย บนความคิดและความปรารถนาที่ตั้งต้นอยู่บนความเข้าใจและเห็นอกเห็นใจในความเป็นมนุษย์อย่างลึกซึ้ง จนอาจกล่าวได้ว่านวัตกรรมนี้เป็นนวัตกรรมที่มีรากฐานมาจากจิตใจอันดีงามของคนไทย และความตั้งใจของ บริษัทเมติคูลี่จำกัด ที่จะนำนวัตกรรมนี้ไปต่อยอดในเชิงธุรกิจ ให้หลายเป็นสินค้านวัตกรรมเรือธงจากแดนสยาม ที่จะข้ามน้ำข้ามทะเลไปสู่ประเทศอื่นๆ ไม่เพียงแต่จะนำมาซึ่งมูลค่าทางการค้าและเศรษฐกิจ แต่ยังแฝงไปด้วยวิธีคิดและการมองโลกที่เป็นเอกลักษณ์ ยืนหยัดอยู่ได้บนความเปลี่ยนแปลงของโลก และนำความภาคภูมิใจมาสู่ประเทศชาติได้อย่างแท้จริง

###

About naruethai

Check Also

Facebook อัปเดตฟีเจอร์ ช่วยให้ผู้ใช้ควบคุมสิ่งที่แชร์และค้นพบบนแพลตฟอร์มได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

วันนี้ Facebook แนะนำเครื่องมือที่ปรับปุงใหม่เพื่อช่วยให้คุณควบคุมสิ่งที่แชร์ไปยังฟีดข่าวได้มากขึ้น โดยผู้ใช้สามารถเลือกได้ว่าใครสามารถแสดงความคิดเห็นในโพสต์สาธารณะของคุณได้บ้าง ซึ่งคุณสามารถควบคุมกลุ่มเป้าหมายที่จะเข้ามาแสดงความคิดเห็นสำหรับโพสต์สาธารณะของคุณได้แล้ว โดยเลือกจากเมนูที่มีให้ ซึ่งสามารถเลือกได้ตั้งแต่ทุกคนที่เห็นโพสต์ไปจนถึงเลือกเฉพาะบุคคลและเพจที่คุณแท็ก

เอชพี พลิกโฉมประสบการณ์ลูกค้า เปิดโชว์รูมเสมือนจริงแห่งแรกในประเทศไทย

นำเสนอนวัตกรรมพีซีและพรินเตอร์ล้ำสมัย ผ่านประสบการณ์โต้ตอบแบบอินเทอร์แอคทีฟ เอชพี อิงค์ เผยโฉม HP virtual showroom โชว์รูมเสมือนจริงแห่งแรกในประเทศไทย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างประสบการณ์เสมือนจริงให้กับลูกค้า ครอบคลุม 6 ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะนำลูกค้าเข้าสู่โลกเสมือนจริงที่ทันสมัย สัมผัสประสบการณ์ด้านเทคโนโลยีที่หลากหลายตามความต้องการใช้งานที่แตกต่าง

Sahifa Theme License is not validated, Go to the theme options page to validate the license, You need a single license for each domain name.