ทุบสถิติกำไรสูงสุดในประวัติการณ์สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน

กรุงโซล, 2 พฤษภาคม 2562 – แอลจี อีเลคทรอนิคส์ อิงค์ (แอลจี) ประกาศยอดขายรวม 13.27 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (หรือประมาณ 4.38 แสนล้านบาท) และผลกำไร 801.25 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (หรือประมาณ 2.64 หมื่นล้านบาท) สำหรับไตรมาสแรกของปี 2562 แม้ว่าผลประกอบการโดยรวมและรายได้จากการดำเนินงานจะลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปี 2561 กลับเป็นปีที่กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านทำสถิติรายงานยอดขายและกำไรไตรมาสแรกสูงที่สุด ซึ่งรายได้จากการดำเนินงานนั้นได้เพิ่มขึ้นถึง 1,090% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 4 ของปี 2561 สะท้อนให้เห็นถึงโครงสร้างค่าใช้จ่ายที่ดีขึ้นในทุกๆ กลุ่มผลิตภัณฑ์ของบริษัท
กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านและเครื่องปรับอากาศ มีรายได้ประจำไตรมาสที่ 1 ที่ 4.86 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (หรือประมาณ 1.6 แสนล้านบาท) และกำไรที่ 647.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (หรือประมาณ 2.14 หมื่นล้านบาท) ซึ่งเป็นรายได้และกำไรประจำไตรมาสสูงสุดในประวัติศาสตร์ของแอลจี ยอดขายที่แข็งแกร่งในยุโรปและเอเชียทำให้อัตราการเติบโตถึง 11% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว และ 26% ในช่วงไตรมาสเดียวกัน จากยอดขายผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียมที่กำลังเติบโต โดยเฉพาะในตลาดเกาหลีเอง กำไรที่เติบโตกว่า 30% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วนั้นมาจากความนิยมของผลิตภัณฑ์ที่มีอัตราการเติบโตสูง ไม่ว่าจะเป็น Styler เครื่องอบผ้า เครื่องฟอกอากาศ และเครื่องดูดฝุ่น พร้อมกับการลดค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ
กลุ่มผลิตภัณฑ์โฮมเอ็นเตอร์เทนเมนต์ รายงานรายได้ประจำไตรมาสที่ 1 ที่ 3.58 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ(หรือประมาณ 1.18 แสนล้านบาท) และกำไรที่ 308.27 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (หรือประมาณ 1.02 หมื่นล้านบาท) ซึ่งลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วเพียง 3% ซึ่งเป็นผลจากดีมานด์ที่ลดลงของช่วงฤดูกาลและไม่มีการแข่งขันกีฬาระดับโลก รายได้พุ่งทะยานจากไตรมาสก่อนหน้านี้ซึ่งมาจากประสิทธิภาพของการตลาดที่ดีขึ้นและการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างค่าใช้จ่ายของบริษัท ทางบริษัทยังคาดการณ์ว่าการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียมมากมายในปี 2019 ไม่ว่าจะเป็น OLED TV, NanoCell TV และ Ultra HD TV ที่มีจอขนาดใหญ่ จะสร้างโอกาสในการเพิ่มยอดขายในไตรมาสที่ 2
กลุ่มผลิตภัณฑ์โทรศัพท์มือถือ ประกาศรายได้ประจำไตรมาสที่ 1 ที่มูลค่า 1.34 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ(หรือประมาณ 4.42 หมื่นล้านบาท) และลดยอดการขาดทุนเหลือเพียง 181.05 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (หรือประมาณ 5.97 พันล้านบาท) จากความมุ่งมั่นในการสร้างธุรกิจโทรศัพท์มือถือของบริษัท นอกจากนี้ ผลประกอบการโดยรวมนั้นดีขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นผลจากโครงสร้างธุรกิจที่แข็งแกร่งขึ้น บริษัทคาดว่าในอนาคต การเปิดตัวของสมาร์ทโฟนรุ่น LG V50ThinQ 5G จะสร้างโมเมนตัมในทิศทางบวกให้กับไตรมาสที่ 2 ประกอบกับการย้ายศูนย์การผลิตสมาร์ทโฟนจากเปียงเตก เกาหลี สู่เมืองไฮฟง เวียดนาม เพื่อเพิ่มกำไรและความสามารถในการแข่งขันระดับโลกของแอลจีในช่วงครึ่งปีหลัง
กลุ่มผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนยานยนต์ สร้างรายได้ในช่วงไตรมาสที่ 1 ที่ 1.2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (หรือประมาณ 3.96 หมื่นล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 61 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ยอดขายที่เพิ่มขึ้นของกลุ่มบริษัท ZKW มาจากการปรับผลประกอบการองค์รวม แม้ว่าต้นทุนวัตถุดิบและค่าใช้จ่าย การผลิตนั้นสูงขึ้นมากสำหรับโครงการใหม่ๆ ของบริษัท เทรนด์ตลาดรถยนต์ทั่วโลกยังเกี่ยวข้องกับราคาเชื้อเพลิงที่ลดต่ำลงและยอดขายรถยนต์และเอสยูวีพรีเมียมที่เพิ่มขึ้น สร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับธุรกิจชิ้นส่วนรถยนต์ของแอลจี
กลุ่มธุรกิจลูกค้าองค์กร ชี้แจงผลประกอบการในช่วงไตรมาสที่หนึ่งที่ 556.58 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (หรือ ประมาณ 1.84 หมื่นล้านบาท) เพิ่มขึ้น 5% จากไตรมาสก่อนหน้า แต่ลดลง 3% จากไตรมาสแรกของปีที่แล้ว ทว่ากำไรมูลค่า 49.38 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (หรือประมาณ 1.63 พันล้านบาท) นั้นเติบโตกว่า 272% จากไตรมาสก่อนหน้า แต่ลดลง 3% จากช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้ว เนื่องจากผลกระทบของภาษีที่สหรัฐฯ กำหนดเกี่ยวกับการนำเข้าแผงโซลาร์และราคาที่ลดต่ำลงอย่างต่อเนื่องในตลาดสำคัญหลายแห่งทั่วโลก ในธุรกิจจอดิจิทัลเชิงพาณิชย์ยังมุ่งสร้างกำไรอย่างต่อเนื่องด้วยการขยายยอดขายของจอแสดงผลระดับพรีเมียมและกลุ่มผลิตภัณฑ์ LED
ข้อมูลเกี่ยวกับอัตราการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของไตรมาสที่ 1 ปี 2562
รายได้ที่ยังไม่ได้รับการตรวจสอบด้านบัญชีประจำไตรมาสของแอลจี อีเลคทรอนิคส์เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของ IFRS (International Financial Reporting Standards) สำหรับช่วงสามเดือน สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2562 โดยอัตราแลกเปลี่ยนของเงินเหรียญสหรัฐฯ อยู่ที่ 33 บาทต่อ 1 เหรียญสหรัฐฯ (ตามอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราของธนาคารแห่งประเทศไทย)
###
เกี่ยวกับ แอลจี อีเลคทรอนิคส์
แอลจี อีเลคทรอนิคส์ อิงค์ เป็นผู้สร้างนวัตกรรมระดับโลกทั้งด้านเทคโนโลยีและการผลิตใน 140 แห่ง พร้อมพนักงานมากกว่า 70,000 คนทั่วโลก ในปี 2018 ยอดขายทั่วโลกอยู่ที่ 54.4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยแอลจีประกอบด้วยกลุ่มธุรกิจห้ากลุ่ม คือ เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านและโซลูชั่นส์เครื่องปรับอากาศ โฮมเอ็นเตอร์เทนเมนต์ โทรศัพท์มือถือ โซลูชั่นส์ผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนยานยนต์ และกลุ่มธุรกิจลูกค้าองค์กร ทั้งนี้ แอลจีถือเป็นผู้ผลิตชั้นนำระดับโลกสำหรับผลิตภัณฑ์ที ตู้เย็น เครื่องปรับอากาศ เครื่องซักผ้า และโทรศัพท์มือถือ รวมถึงกลุ่มผลิตภัณฑ์พรีเมียมอย่าง LG SIGNATURE และ LG ThinQ ที่มาพร้อมกับปัญญาประดิษฐ์หรือ AI สำหรับข้อมูลข่าวสารล่าสุดของแอลจี สามารถเยี่ยมชมได้ที่ www.LGnewsroom.com
เกี่ยวกับ แอลจี อีเลคทรอนิคส์ ในประเทศไทย
บริษัทแอลจี อีเลคทรอนิคส์ ประเทศไทย (จำกัด) หนึ่งในผู้นำด้านการผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าและกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านภายใต้แบรนด์ แอลจี โดยมีวิสัยทัศน์ที่จะก้าวขึ้นสู่ความเป็นแบรนด์ชั้นนำของเมืองไทยที่จะเติมเต็มชีวิตของผู้บริโภคชาวไทยด้วยนวัตกรรมระดับโลกโดยในประเทศไทยนั้น ประกอบไปด้วย 3 หน่วยธุรกิจสำคัญ ได้แก่ ธุรกิจผลิตภัณฑ์โฮมเอ็นเตอร์เทนเมนต์ ธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน ธุรกิจเครื่องปรับอากาศและโซลูชั่นด้านพลังงานแอลจีเป็นผู้นำด้านการผลิตทีวีจอแบน อุปกรณ์ภาพและเสียง เครื่องปรับอากาศ เครื่องซักผ้า และตู้เย็นที่มีคุณภาพระดับโลก นอกจากผลิตภัณฑ์ที่มีความโดดเด่นทั้งด้านดีไซน์ เทคโนโลยีและคุณภาพที่วางใจได้แล้ว แอลจียังมุ่งมั่นในการสร้างแบรนด์ผ่านกิจกรรมทางการตลาดในรูปแบบที่น่าสนใจและหลากหลายเพื่อให้สอดคล้องกับสโลแกน “Life’s Good”
ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับแอลจีได้ที่ www.LGnewsroom.com และศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแอลจี ประเทศไทย ได้ที่ www.lg.com/th