โคบอทส์ หุ่นยนต์ผู้ช่วยด้านสุขภาพ

โดยนายดาร์เรลล์อดัมส์  หัวหน้าประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนีย   บริษัท  ยูนิเวอร์ซัลโรบอท  

โควิด -19  เป็นโรคระบาดที่แพร่ไปทั่วโลก และสร้างความประหลาดใจไปพร้อมๆ กับระบบการดูแลสุขภาพที่ต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายที่ยากที่สุดอย่างกระทันหัน 

บุคลากรทางการแพทย์กำลังทำงานตลอดเวลา และเป็นแนวหน้าที่ต้องทำงานหนัก ซึ่งทำให้เกิดความเหนื่อยล้าในหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการติดเชื้อไวรัสจากผู้ป่วย และการเสียชีวิตในหน้าที่

ต้องการพยาบาลนับล้านคน

ระบบการดูแลสุขภาพของโลกกำลังประสบกับปัญหาอย่างมาก ภายใต้ความกดดันของการระบาดใหญ่ไปทั่วโลก แต่รายงานล่าสุดแสดงให้เห็นว่าทั่วโลกต้องการพยาบาลเพิ่มขึ้นอีก 6 ล้านคน ตามเป้าหมายด้านสุขภาพทั่วโลก ถึงแม้ว่าจะไม่มีการระบาดทั่วโลกก็ตาม นี่เป็นตัวเลขที่น่าตกใจและไม่น่าเป็นไปได้ว่าจะสามารถตอบสนองความต้องการในช่วงเวลาสั้น ๆ ได้ 

ปัจจัยมนุษย์และความผิดพลาด

ในการศึกษาเรื่องปัจจัยเกี่ยวกับมนุษย์ และความเหนื่อยล้า ซึ่งปัจจัยที่มีส่วนทำให้เกิดความผิดพลาดของมนุษย์ ได้แก่ การขัดขวางการนอนหลับ การเปลี่ยนตารางเวลา งานซ้ำ ๆ  งานที่ใช้ร่างกาย และแน่นอนที่สุดคือ ความเครียด

ในส่วนทางการแพทย์ นอกเหนือจากการขาดแคลนพยาบาลแล้ว อุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพต้องเผชิญกับความท้าทายอื่น ๆ เช่น ความผิดพลาดของมนุษย์ที่สูงขึ้น เนื่องจากสภาพแวดล้อมที่กดดันและไม่เป็นระบบอัตโนมัติ  ทำงานเป็นกะ ใช้เวลาจำนวนมากไปกับทำงานงานด้านธุรการ ซึ่งเอาเวลาการดูแลผู้ป่วยไป สิ่งเหล่านี้ล้วนมีส่วนทำให้เกิดความเหนื่อยล้าและความเครียดในพยาบาล

ทคโนโลยีและหุ่นยนต์มาเป็นผู้ช่วย 

อย่างไรก็ตาม มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ที่หุ่นยนต์ร่วมปฏิบัติงานหรือ โคบอทส์(cobots) ซึ่งเป็นหุ่นยนต์อุตสาหกรรมกำลังเข้าสู่อุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพ

หุ่นยนต์เข้ามาระหว่างการระบาดของโควิท -19 (COVID-19)

ในช่วงเวลาที่กังวลเรื่องการระบาดของโควิท-19 (COVID-19)นี้อุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพกำลังหันมาหาหุ่นยนต์เพื่อขอความช่วยเหลือหุ่นยนต์ช่วยลดความเสี่ยงของบุคลากรทางการแพทย์โดยลดการสัมผัสกับผู้ป่วยที่ถูกแยกออกมา

ในมหาวิทยาลัยซิงหัวซึ่งเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศจีนนักวิจัยได้ออกแบบโคบอทเพื่อช่วยเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ทำงานที่มีความเสี่ยงในการตรวจหาไวรัสประกอบด้วยแขนหุ่นยนต์บนล้อ  ที่สามารถตรวจเชื้อในปากฟังเสียงในอวัยวะของผู้ป่วยและการอัลตราซาวด์ ซี่งงานเหล่านี้เป็นงานของแพทย์ก็สามารถทำได้โดยหุ่นยนต์ที่ติดตั้งกล้องเพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสที่อาจเกิดขึ้นจากเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์

โคบอทส์ ยังช่วยต่อสู้กับการแพร่กระจายของโควิด-19 ในสหรัฐอเมริกาบริษัทดีเทคแทคเฮม (Detectachem) ซึ่งเป็นบริษัทที่อยู่ในรัฐเท็กซัสกำลังผลิตชุดทดสอบโควิดราคาประหยัดที่ใช้สมาร์ทโฟนเพื่อวิเคราะห์ผลลัพธ์ใน10 ถึง30 นาทีเมื่อองค์การอาหารและยา (FDA) อนุมัติชุดดีเทคแทคเฮม (DetectaChem) จะสามารถเพิ่มกำลังการผลิตเป็น50,000ชุดต่อวัน

ในสิงคโปร์หุ่นยนต์ที่ชื่อว่าบีมโปร(BeamPro) จะทำหน้าที่ให้ยาและอาหารแก่ผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อโควิด-19หรือสงสัยว่าติดเชื้อไวรัสในหอผู้ป่วยโรงพยาบาลอเล็กซานดรา

โคบอทส์จากยูนิเวอร์ซัลโรบอท (ยูอาร์)  (Universal Robots (UR) Cobots) ในการดูแลสุขภาพ

ก่อนที่จะมีการระบาดของโควิด -19 อุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพได้นำหุ่นยนต์ของยูอาร์ไปใช้เพื่อช่วยงานต่างๆ หุ่นยนต์สามารถทำงานง่ายๆ เช่นการเจาะเลือด การตรวจสอบสัญญาณและเงื่อนไขสำคัญของผู้ป่วยและดูแลสุขอนามัยของผู้ป่วยหากจำเป็น หุ่นยนต์ยังสามารถเตรียมและแจกจ่ายยาในห้องปฏิบัติการทางเภสัชวิทยาและยังช่วยให้การเคลื่อนไหวและการดูแลผู้ป่วยเป็นโรคอัมพาตขา ลดภาระงานและความเครียดทางกายภาพแก่ นักกายภาพบำบัด

ในประเทศเดนมาร์ก โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยโคเปนเฮเกนเก็นทอฟต์ได้ให้หุ่นยนต์โคบอท ของยูนิเวอร์ซัล โรบอท รุ่น ยูอาร์5 (Universal Robot UR5 (Cobots)) 2 ตัวเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการและคัดแยกตัวอย่างเลือดเพื่อการวิเคราะห์  โคบอทส์ช่วยให้แล็บสามารถรักษาเป้าหมายในการส่งผลลัพธ์มากกว่า 90% ภายใน 1 ชั่วโมงแม้ว่าตัวอย่างจะมาถึงเพื่อการวิเคราะห์เพิ่มขึ้น 20%

นอกจากนี้ในเดนมาร์กโครงการ Patient @ Home ยังได้รับการพัฒนาโดยศูนย์การฟื้นฟูสมรรถภาพโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยโอเดนเซในริงด้วยยูนิเวอร์ซัล โรบอท เพื่อช่วยเหลือผู้พักฟื้นจากลิ่มเลือดและการบาดเจ็บที่เกี่ยวข้องกับหลอดเลือดสมอง โคบอทนี้ เรียกว่าไรเนอร์ (Rainer) และถูกออกแบบมาเพื่อช่วยผู้ป่วยที่มีการเคลื่อนไหวการทำงานซ้ำ ๆ เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการฟื้นฟูสมรรถภาพของพวกเขา เทคโนโลยีนี้สามารถสนับสนุนนักกายภาพบำบัดด้วยการอนุญาตให้พวกเขาตั้งโปรแกรมการฝึกอบรมเฉพาะที่ผู้ป่วยสามารถดำเนินการได้อย่างปลอดภัยด้วยโคบอท

ในประเทศสิงคโปร์ คลินิกการแพทย์แผนจีน ชื่อ NovaHealth (TCM) มีหุ่นยนต์นวดตัวเพื่อการนวดหลังและข้อเข่าให้กับผู้ป่วย พัฒนาโดย AiTreat  ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพของมหาวิทยาลัยนันยาง เทคโนโลจิคัล (Nanyang Technological University)  หมอนวดหุ่นยนต์ดังกล่าวชื่อเอ็มมา (Emma) ย่อมาจาก Expert Manipulative Massage Automation ประกอบด้วยแขนหุ่นยนต์ที่ยื่นออกมาจากเครื่องจักร มีอุณหภูมิระหว่าง 38 องศาเซลเซียสถึง 40 องศาเซลเซียสเพื่อเลียนแบบการสัมผัสของมนุษย์ แพทย์ TCM จะกำหนดประเภทของการนวดหลังจากให้คำปรึกษาแล้ว และหุ่นยนต์จะปรับค่ากับกล้องเพื่อกำหนดเป้าหมายฝังเข็มอย่างถูกต้อง ผู้ป่วยสามารถเปลี่ยนแปลงแรงกดของการนวดผ่านการควบคุมแบบใช้มือถือในระหว่างกระบวนการ   ส่วนเซ็นเซอร์ในตัวหุ่นยนต์จะวัดความตึงของกล้ามเนื้อก่อนและหลังการนวดซึ่งช่วยให้แพทย์สามารถประเมินสภาพของผู้ป่วยได้อย่างแม่นยำ

ในประเทศสเปน ระบบหุ่นยนต์วิสัยทัศน์ที่เรียกว่าซีบอท (CBot) ได้รับการพัฒนา สามารถใช้กายภาพบำบัดดังกล่าวหลายประเภทโดยอัตโนมัติ ในขณะที่สภาพของผู้ป่วยยังคงได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ที่ผ่านการฝึกอบรมระบบหุ่นยนต์เลียนแบบบทบาทของนักกายภาพบำบัด ซึ่งช่วยบรรเทาภาระหนักจากภาระงานของคลีนิค แขนหุ่นยนต์สามแขนจากยูนิเวอร์ซัล โรบอท ถูกรวมเข้ากับเทคโนโลยีชิ้นนี้ ดังนั้นวิศวกรสามารถปรับซอฟต์แวร์ให้เข้ากับความต้องการเฉพาะของผู้ป่วยและงานที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย การเขียนโปรแกรมการติดตั้งและการทำงานร่วมกันอย่างง่ายดายของแขนโคบอลช่วยให้ศัลยแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่และหุ่นยนต์ทำงานเคียงข้างกันและดูแลผู้ป่วยได้

นอกจากนี้ หุ่นยนต์ที่เป็นผู้ช่วยแพทย์ สามารถตรวจข้อมูลสถิติที่สำคัญของผู้ป่วยและแจ้งเตือนพยาบาลเมื่อจำเป็นที่ต้องใช้มนุษย์ โดยให้พยาบาลตรวจสอบผู้ป่วยหลายคนพร้อมกันได้ ผู้ช่วยเหล่านี้ยังป้อนข้อมูลลงในบันทึกสุขภาพอิเล็กทรอนิกส์ของผู้ป่วยโดยอัตโนมัติด้วย

จากโรงงานสู่โรงพยาบาล

ระบบอัตโนมัติเป็นส่วนที่ขาดไม่ได้ของอุตสาหกรรมการผลิตระดับโลกมานานหลายทศวรรษแล้วและได้ส่งเสริมปรับปรุงอย่างน่าทึ่งในด้านประสิทธิภาพและประสิทธิผลของอุตสาหกรรม 

เทคโนโลยีหุ่นยนต์ได้มีการพัฒนาในช่วงหลายปีที่ผ่านมาสู่โคบอทส์ ซึ่งเป็นหุ่นยนต์ที่เป็นมิตรกับอุตสาหกรรมหนัก และขนาดใหญ่มากกว่าหุ่นยนต์ในอดีตและตอนนี้พร้อมที่จะให้การสนับสนุนระบบการดูแลสุขภาพ ดูแลคนที่เรารัก

###

Reference: https://blog.universal-robots.com/cobots-conquering-the-healthcare-frontier

https://www.weforum.org/agenda/2020/04/nursing-report-who-nurses-coronavirus-pandemic-health-goals/

https://www.channelnewsasia.com/news/asia/coronavirus-robotic-arm-designed-in-china-save-lives-frontline-12505274

https://business.facebook.com/UniversalRobots/videos/264688871221187/

https://www.channelnewsasia.com/news/asia/covid-19-robots-hospital-health-safe-distance-coronavirus-12623846

About naruethai

Check Also

ผลการศึกษาฉบับใหม่ของ Qualtrics ระบุว่า คนทำงานมากกว่า 60% ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยังคงรู้สึกไม่สะดวกที่จะกลับไปทำงานในที่ทำงาน

ผลการศึกษาทางธุรกิจเรื่อง “การกลับไปทำงานในที่ทำงาน” ซึ่งเป็นผลการศึกษาของคนทำงานในประเทศไทยและมาเลเซีย เกี่ยวกับความมั่นใจในการกลับไปใช้ชีวิตในสังคม กรุงเทพ, 16 มิถุนายน 2563 – ควอทริคซ์  (Qualtrics) ผู้นำด้านประสบการณ์ลูกค้าและผู้สร้างการจัดการประสบการณ์ ประกาศผลการศึกษาเรื่อง “การกลับไปทำงานในที่ทำงาน” (Return …

ThoughtWorks เมืองซีอาน แบ่งปันประสบการณ์กลับเข้าทำงาน ปรับเปลี่ยนอย่างไรให้ปลอดภัย

จากสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งทำให้หลายบริษัทมีนโยบายให้พนักงานทำงานจากที่บ้านได้ ในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา ขณะนี้สถานการณ์เริ่มดีขึ้น หลายองค์กรก็ได้เริ่มให้พนักงานกลับเข้าไปทำงานที่สำนักงานกันบ้างแล้ว ทั้งแบบเต็มเวลาทุกวัน หรือเพียงบางวันในหนึ่งสัปดาห์