เอไอเอส ได้รับการคัดเลือกให้เป็นสมาชิกดัชนีความยั่งยืนต่อเนื่องปีที่ 6 ทั้ง FTSE4Good Index Series จากฟุตซี่ รัสเซล (FTSE Russell) องค์กรจัดทำดัชนีในระดับสากลซึ่งได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในกลุ่มนักลงทุน และ ESG 100 สะท้อนให้เห็นถึงการดำเนินธุรกิจด้วยความมุ่งมั่น สนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนตามแนวทางองค์กรสหประชาชาติ เพื่อเป็นรากฐานในการพัฒนาประเทศและสร้างคุณค่าแก่สังคมไทยในทุกภาคส่วน
นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเอไอเอส กล่าวว่า “การได้รับการคัดเลือกให้เป็นสมาชิกดัชนี FTSE4Good Index Series ประจำปีนี้ รวมถึงได้รับการคัดเลือกให้อยู่ในรายชื่อ ESG 100 บริษัทจดทะเบียนที่มีการดำเนินงานโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม สังคมและธรรมาภิบาล ต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 โดยสถาบันไทยพัฒน์ นับเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่งในฐานะองค์กรผู้ให้บริการด้านดิจิทัลและโทรคมนาคมรายใหญ่ของประเทศที่มีความมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจและสร้างคุณค่าในด้านธุรกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุล ภายใต้หลักบรรษัทภิบาลที่ดี เพื่อเป็นรากฐานในการพัฒนาประเทศไทย สร้างคุณค่าแก่สังคมไทยในทุกภาคส่วน มุ่งสู่การเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืน
โดยที่ผ่านมาเอไอเอสได้ผลักดันเรื่องการบริหารจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ (E-Waste) เพื่อนำไปกำจัดอย่างถูกวิธี และไม่เกิดอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อส่งเสริมความยั่งยืน ผ่านโครงการ “คนไทยไร้ E-Waste” ที่ร่วมมือกับภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ในการสร้างการตระหนักรู้และขยายจุดรับทิ้งขยะ E-Waste ทั่วประเทศรวมกว่า 2,000 จุด รวมถึงยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทยผ่านภารกิจหลัก “อุ่นใจ CYBER” ในการสร้างภูมิคุ้มกันบนโลกออนไลน์ผ่านชุดการเรียนรู้เสริมสร้างทักษะทางด้านดิจิทัล DQ (Digital Quotient) ครบทั้ง 8 ทักษะ และสร้างเครื่องมือคัดกรอง Content ที่ไม่เหมาะสมจากโลกดิจิทัลโดยใช้ศักยภาพของเครือข่ายและการร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลก
ความสำเร็จครั้งนี้ เกิดจากการรวมพลังของบุคลากรในองค์กรตั้งแต่ผู้บริหาร พนักงาน และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องที่ได้นำหลักการพัฒนาอย่างยั่งยืนมาปรับประยุกต์ใช้ในการทำงานตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ ทำให้เกิดแรงขับเคลื่อนด้านความอย่างยั่งยืนที่ต่อเนื่องและมั่นคง”
###
เกี่ยวกับ AIS
บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS ผู้นำด้าน Digital Life Service Provider อันดับ 1 ที่มีคลื่นความถี่ในการให้บริการมากที่สุดรวม 1450 MHz และมีจำนวนผู้ใช้งานมากที่สุดกว่า 41 ล้านเลขหมาย (ณ มิถุนายน 2563) พร้อมขับเคลื่อนประเทศไทยด้วยเทคโนโลยี 5G ที่ครบ 77 จังหวัดแล้วเป็นรายแรกผ่าน 3 สายธุรกิจ ได้แก่ โทรศัพท์เคลื่อนที่, อินเทอร์เน็ตบ้านความเร็วสูงภายใต้แบรนด์ AIS Fibre และบริการดิจิทัล 5 ด้าน ได้แก่ วิดีโอ คลาวด์ ดิจิทัลเพย์เมนท์ อินเทอร์เน็ตในทุกสิ่ง (IoT) และบริการร่วมกับพาร์ทเนอร์ ตลอดจนขยายสู่กลุ่มธุรกิจใหม่ อาทิ AIS eSports, AIS Insurance ทั้งหมดนี้ เพื่อสนับสนุนความแข็งแกร่งด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของประเทศ ขยายขีดความสามารถของภาคอุตสาหกรรม และยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยไปพร้อมกัน