หัวเว่ยเปิดตัวโครงการ Developer Program 2.0 เร่งสร้างอีโคซิสเต็มนักพัฒนา

นครเซี่ยงไฮ้ประเทศจีน/ 26 กันยายน 2562 – ที่งาน HUAWEI CONNECT 2019 หัวเว่ยได้ประกาศทุ่มงบกว่า 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐในระยะเวลา 5 ปีข้างหน้า โดยจะเป็นส่วนหนึ่งของงบโครงการ Developer Program 2.0 ตั้งเป้าจับมือกับองค์กรและนักพัฒนาอิสระเพื่อสร้างระบบอีโคซิสเต็มของอุตสาหกรรมคอมพิวติ้ง  และได้เปิดตัว Kunpeng Developer Kit และแพลตฟอร์มพัฒนา AI อย่าง ModelArts 2.0 สำหรับการพัฒนาซอฟต์แวร์ในแพลตฟอร์มประมวลผล Kunpeng และ Ascend

หัวเว่ยประกาศเปิดตัวโครงการ Developer Program 2.0

หัวเว่ยเชิญชวนนักพัฒนาร่วมสร้างอีโคซิสเต็มของอุตสาหกรรมคอมพิวติ้ง

โครงการ Developer Program 1.0 ของหัวเว่ย เปิดตัวขึ้นครั้งแรกที่งานประชุม Huawei Developer Conference ในปี 2558 ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา หัวเว่ยก็ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์การสื่อสารแบบเปิด บริการคลาวด์ ระบบประมวลผล AI Ascend และแพลตฟอร์มการประมวลผล Kunpeng  โดยบริษัทได้เปิดศูนย์ OpenLab ถึง 21 แห่งทั่วโลก ตั้งชุมชนนักพัฒนา จัดการแข่งขันสำหรับนักพัฒนา และระบบการรับรองนักพัฒนาที่มีความสามารถ  ในขณะนี้หัวเว่ยมีนักพัฒนาอิสระที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการแล้วถึง 1.3 ล้านคน และทำงานร่วมกับบริษัทนักพัฒนาอีกกว่า 14,000 ราย เพื่อร่วมกันรังสรรค์ผลิตภัณฑ์และโซลูชันที่จะสร้างคุณค่าให้แก่ลูกค้า

มร. แพทริค จาง ประธานเจ้าหน้าที่ด้านเทคโนโลยี กลุ่มผลิตภัณฑ์และบริการ CLOUD & AI ของหัวเว่ย อธิบายถึงเป้าหมายของโครงการ Developer Program 2.0 ในอีก 5 ปีข้างหน้า ดังนี้

  • สร้างอีโคซิสเต็มอุตสาหกรรมคอมพิวติ้ง โดยใช้ขุมกำลังจากโปรเซสเซอร์ Kunpeng และ Ascend
  • สร้างระบบ Enablement ที่ครบวงจร
  • ส่งเสริมการพัฒนามาตรฐานอุตสาหกรรม คุณสมบัติ ไซต์สาธิต และระบบการรับรองด้านเทคนิค
  • สร้างอีโคซิสเต็มสำหรับแอปพลิเคชันในอุตสาหกรรมแต่ละประเภท รวมถึงอีโคซิสเต็มของอุตสาหกรรมในแต่ละภูมิภาค
  • แบ่งปันพลังการประมวลผลของ Kunpeng และ Ascend ให้นักพัฒนาทุกคนได้ใช้

โครงการ Developer Program 2.0 สอดคล้องกับหลักการ Lab as Service, End-to-End, Agile, Dedicated และ Social (LEADS) ของบริษัท และยังเพิ่มประสิทธิภาพให้กระบวนการ พร้อมส่งเสริมชุมชน และทรัพยากรต่าง ๆ ในการพัฒนาทั้ง 4 ระยะ ได้แก่ การสร้างความตระหนักรู้ การเรียนรู้ การพัฒนา และการนำออกสู่ตลาด การสนับสนุนแบบครบวงจรนี้จะทำให้การพัฒนาซอฟต์แวร์บนแพลตฟอร์มของหัวเว่ยมีประสิทธิผลยิ่งขึ้น  โดยทรัพยากรที่เรามีให้บริการนั้นรวมถึงโค้ดตัวอย่างใน Kunpeng, เทรนนิ่งการ์ดของ Ascend, คูปองใช้บริการคลาวด์, OpenLab, การฝึกอบรมและการมอบใบรับรอง และการแข่งขันสำหรับนักพัฒนา  หัวเว่ยยังให้การสนับสนุนด้านการย้ายแอปพลิเคชันสำหรับริษัทซอฟต์แวร์อิสระ การพัฒนา Huawei FAE การตลาด และการสร้างโชว์เคส   และเพื่อส่งเสริมการเติบโตของอุตสาหกรรม หัวเว่ยได้ก่อตั้งกองทุนพัฒนาการเรียนรู้ (LDF) กองทุนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ (PDF) และกองทุนพัฒนาด้านการตลาด (MDF) สำหรับขั้นตอนการเรียนรู้ สร้างผลิตภัณฑ์ และส่งออกสู่ตลาด ตามลำดับ

Kunpeng Developer Kit ของหัวเว่ย สนับสนุนการย้ายซอฟต์แวร์ และการพัฒนาบนแพลตฟอร์มคอมพิวติ้ง Kunpeng ของหัวเว่ย 

มร. ซีเหว่ จาง ประธานบริหาร กลุ่มผลิตภัณฑ์ Taishan & Atlas ของหัวเว่ย ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับอีโคซิสเต็ม Kunpeng ไว้ว่า “การพัฒนาของอีโคซิสเต็ม Kunpeng กำลังก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว ในช่วงเก้าเดือนที่ผ่านมา เราได้ทำงานร่วมกับบริษัทคู่ค้าเพื่อทำการย้ายแอปพลิเคชันยอดนิยมกว่า 3,000 แอปเข้าไปอยู่ในอีโคซิสเต็ม Kunpeng ซึ่งจะช่วยปลดล็อกประสิทธิภาพที่เหนือกว่าให้แก่โค้ดในทุกๆ บรรทัด”

Kunpeng จะช่วยเร่งกระบวนการทรานสฟอร์มสู่ดิจิทัลในทุก ๆ อุตสาหกรรมให้รวดเร็วยิ่งขึ้น ด้วยเทคโนโลยีใหม่ ๆ ดังต่อไปนี้ 

  • การทำงานร่วมกันระหว่างดีไวซ์-เอดจ์-คลาวด์ ได้ทลายขีดจำกัดระหว่างดาต้าเซ็นเตอร์ เอดจ์ และดีไวซ์ต่าง ๆ ด้วยแพลตฟอร์มประมวลผลที่รวมเป็นหนึ่งเดียวสำหรับนักพัฒนา
  • การประมวลผลแบบ Multi-core ที่ทำงานพร้อมกันได้ในการประมวลผลเพียงครั้งเดียวนั้นออกแบบมาเพื่อสถานการณ์ที่ใช้บิ๊กดาต้า สตอเรจและดาต้าเบสที่ใช้งานร่วมกัน Kunpeng จะช่วยส่งเสริมการทรานสฟอร์มสู่สถาปัตยกรรมไอที
  • การทำงานร่วมกันของ Kunpeng และ Ascend ขยายไปถึงการประมวลผลด้วย AI สำหรับเทคโนโลยีใหม่ที่กำลังมาแรงอย่าง 5G, AI และการขับขี่อัตโนมัติ
  • เทคโนโลยีเร่งกระบวนการประมวลผล 5 ระดับจะช่วยเพิ่มศักยภาพขึ้นอีก 50% ผ่านการรวบรวมงานที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ,  การรองรับ Non-uniform memory access (NUMA), ระบบเอ็กเซลเลอเรดฮาร์ดแวร์การเข้าคิวข้อความ, ไลบรารีการเอ็กเซลเลอเรดฟังก์ชัน และระบบเพิ่มประสิทธิภาพ Kernel scheduling อัตโนมัติ

Kunpeng Developer Kit ของหัวเว่ยประกอบด้วยชุดคอมไพเลอร์และเครื่องมือสามตัวด้วยกัน โดย Dependency Advisor และ Porting Advisor เป็นระบบแรกในอุตสาหกรรมที่ทำให้เกิดระบบอัตโนมัติสำหรับการย้ายแอปพลิเคชันระหว่างแพลตฟอร์มการประมวลผล พร้อมเร่งการย้ายและการออปติไมซ์โค้ด  นักพัฒนาซอฟต์แวร์นั้นเป็นผู้ที่ไม่เชื่อในชุดคำสั่ง แต่ Tuning Kit ช่วยทำให้เข้าใจประสิทธิภาพที่จะเกิดขึ้นและช่วยออปติไมซ์พารามิเตอร์ได้ในคลิกเดียวพร้อมอัตราในการพัฒนาที่มากขึ้นถึง 5 เท่า นักพัฒนาจึงสามารถใช้เครื่องมือและฐานความรู้ที่เกี่ยวข้องจากชุมชนสำหรับนักพัฒนาของ Kunpeng ที่ครบวงจร นอกจากนี้ DevCloud ของหัวเว่ยคลาวด์ยังผสานรวมเข้ากับ Kunpeng Developer Kit เพื่อช่วยทำให้เครื่องมือการพัฒนาซอฟต์แวร์พร้อมใช้งานออนไลน์อีกด้วย

หัวเว่ยเปิดตัว ModelArts 2.0 เพื่อการพัฒนา AI อันทรงประสิทธิภาพ

มร. แจ็ก เจีย ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายการผลิตภัณฑ์ EI ของ Cloud BU ประกาศเปิดตัว ModelArts 2.0 ซึ่งอัปเกรดจากแพลตฟอร์มการพัฒนา AI ที่ครบวงจร เครื่องมือระบบอัจฉริยะประสิทธิภาพสูงชิ้นนี้ช่วยปรับปรุงการเตรียมดาต้า รวมถึงการเทรนและการใช้งานโมเดลอีกด้วย ModelArts 2.0 ยังเป็นระบบที่เป็นมิตรต่อผู้เริ่มต้นในวงการ AI เพื่อให้ผู้ใช้เชี่ยวชาญและใช้ทักษะ AI ได้อย่างรวดเร็ว และยังเหมาะสำหรับวิศวกรอัลกอริทึมและนักวิทยาศาสตร์ด้านข้อมูล เพราะจะช่วยเพิ่มขีดความความสามารถในการประมวลผล ทำให้นักพัฒนามีเวลาเหลือไปโฟกัสกับการวิจัยและสร้างสรรค์อัลกอริทึมขั้นพื้นฐาน

งาน Huawei Connect ยังเป็นที่เปิดตัวหนังสือ Ascend AI Processor Architecture and Programming: Principles and Applications of CANN  โดยมี มร. เหลียง เสี่ยวเหยา อาจารย์และที่ปรึกษาระดับปริญญาเอก คณะวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์และวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้เจียวทง มาเป็นผู้เรียบเรียงคำแนะนำในซีรีส์หนังสือเกี่ยวกับ AI ของหัวเว่ย บริษัทมีแผนที่จะเผยแพร่บทเรียนเกี่ยวกับการประมวลผลอัจฉริยะที่ใช้เป็นแบบเรียนเพื่อส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรสำหรับอุตสาหกรรม AI นอกจากนี้ มร. จิม เซ็มลิน ผู้อำนวยการของ Linux Foundation ยังได้มาร่วมงานในครั้งนี้ด้วย  พร้อมกล่าวว่า Linux เป็นพลังในการขับเคลื่อนการพัฒนาการประมวลผลที่หลากหลายมาโดยตลอด และ Linux Foundation พร้อมร่วมงานกับหัวเว่ยเพื่อส่งเสริมความหลากหลายในโลกแห่งการประมวลผล

HUAWEI CONNECT 2019 เป็นงานแฟล็กชิปประจำปีซึ่งหัวเว่ยจัดขึ้นเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมไอซีทีระดับโลก โดยงานในปีนี้จัดขึ้นภายใต้ธีม “Advance Intelligence” ที่นครเซี่ยงไฮ้ ระหว่างวันที่ 18 – 20 กันยายน 2562 หัวเว่ยมุ่งหวังที่จะสร้างแพลตฟอร์มที่เปิดกว้างและทุกคนเข้ามามีส่วนร่วมได้ สำหรับลูกค้าและพันธมิตรต่าง ๆ เพื่อสำรวจโอกาสใหม่ ๆ ให้โลกอัจฉริยะแห่งอนาคต

โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ https://www.huawei.com/en/press-events/events/huaweiconnect2019 

###

เกี่ยวกับหัวเว่ย

หัวเว่ย ผู้นำด้านโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารและสมาร์ทดีไวซ์ ด้วยโซลูชั่นที่ผสมผสานในสี่กลุ่มหลัก คือ เครือข่ายโทรคมนาคม, ไอที, สมาร์ทดีไวซ์ และบริการคลาวด์ บริษัทมีความมุ่งมั่นที่จะนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาสู่การใช้งานทุกระดับเพื่อทุกผู้คน ทุกครัวเรือน และทุกองค์กร เพื่อขับเคลื่อนโลกอัจฉริยะที่เชื่อมโยงถึงกันอย่างเต็มรูปแบบ ผลิตภัณฑ์ โซลูชั่นและบริการที่ครบวงจรของหัวเว่ยเปี่ยมด้วยศักยภาพด้านการแข่งขันและเชื่อถือได้ จากการทำงานร่วมกับพันธมิตรในระบบนิเวศแบบเปิด หัวเว่ยสามารถสร้างมูลค่าระยะยาวให้กับลูกค้า เสริมสมรรถนะของผู้คน ช่วยให้การใช้ชีวิตที่บ้านมีความสะดวกสบาย และสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดนวัตกรรมในองค์กรทุกรูปแบบและทุกขนาด นวัตกรรมของหัวเว่ยเน้นตอบสนองตามความต้องการของลูกค้า เราทุ่มงบประมาณจำนวนมหาศาลในด้านการวิจัย เน้นค้นหานวัตกรรมด้านเทคนิคใหม่ ๆ ที่จะช่วยขับเคลื่อนโลกของเราให้ก้าวไปข้างหน้า เรามีพนักงานกว่า 180,000 คน ดำเนินธุรกิจในกว่า 170 ประเทศทั่วโลก หัวเว่ยก่อตั้งขึ้นในปี 2530 และเป็นบริษัทเอกชนที่มีพนักงานเป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมด  

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของหัวเว่ย ได้ที่ www.huawei.com 

ติดตามเราได้ที่
http://www.linkedin.com/company/Huawei
http://www.twitter.com/Huawei
http://www.facebook.com/HuaweiTechTH
http://www.google.com/+Huawei
http://www.youtube.com/Huawei

About naruethai

Check Also

หัวเว่ยเปิดตัวโครงการประกาศนียบัตรด้านไอซีที ระดับเอเชียแปซิฟิก ประจำปี 2020 เร่งพัฒนาอีโคซิสเต็มด้านบุคลากรไอซีที

บริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่เดินหน้าพันธกิจจัดฝึกอบรมไอซีทีต่อเนื่อง แม้ต้องเผชิญการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 กรุงเทพฯ/ 23 กันยายน 2563 – บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ส์ จำกัด ผู้จัดหาเทคโนโลยีไอซีทีชั้นนำของโลกเดินหน้าเปิดตัวโครงการประกาศนียบัตรมาตรฐานวิชาชีพด้านไอซีที ระดับเอเชียแปซิฟิก ประจำปี 2020 …

ไมโครซอฟท์และ RISE ประกาศรายชื่อผู้ชนะจากโครงการ “Hack the Future: Business Rebound Edition” โครงการช่วยเหลือผู้ประกอบการไทยให้ฟื้นฟูธุรกิจ เอาชนะวิกฤตหลังโควิด-19

กรุงเทพฯ  23 กันยายน 2563 – ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย และ RISE สถาบันเร่งสปีดนวัตกรรมองค์กร มอบรางวัลชนะเลิศในโครงการ “Hack the Future: Business …