กลยุทธ์การตลาดที่มาแรงในปีนี้มักจะมี Online to Offline หรือ O2O ติดโพลสำรวจอยู่เสมอ เพราะในปัจจุบันไม่เพียงพอแล้วถ้าจะทำการตลาดด้านเดียวไม่ว่าจะเป็นทางออฟไลน์หรือออนไลน์เพียงอย่างเดียว แต่จะต้องนำมาใช้แบบผสมผสาน โดยหยิบใช้ข้อดีของทั้งคู่เพื่อการทำการตลาดที่ได้ผลตอบรับจากผู้บริโภคที่สมบูรณ์แบบที่สุด ดังนั้นสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ สสว. หน่วยงานที่สนันสนุน SME อย่างเต็มที่เตรียมจัดงาน SME ONE FEST 2018 ระหว่างวันที่ 6-9 กันยายน 2561 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ จะมาให้ความรู้ถึงกลยุทธ์ Online to Offline ว่ามีความน่าสนใจอย่างไร มาเริ่มทำความรู้จักกันเลย
Online to Offline คืออะไร
Online to Offline หรือ O2O คือการผสมผสานธุรกิจออนไลน์ไปยังออฟไลน์ โดยที่ออฟไลน์คือการตลาดแบบเดิมที่มีมาอย่างยาวนาน เน้นการมีหน้าร้านหรือจุดจำหน่ายเพื่อเข้าถึงลูกค้าให้ได้มากที่สุด และมีความน่าเชื่อถือในระดับสูงเพราะลูกค้าจะได้เห็นสินค้าจริงและเกิดความเชื่อมั่น ต่างกับออนไลน์คือการสื่อสารหรือทำการธุรกิจผ่านระบบอินเทอร์เน็ต ซึ่งสามารถเข้าถึงลูกค้าได้กว้างกว่าและมีขีดจำกัดที่น้อยมาก อีกทั้งยังมีต้นทุนในการทำธุรกิจที่ต่ำกว่า แต่ไม่สามารถสร้างความน่าเชื่อถือได้อย่างเต็มที่เนื่องจากลูกค้าจะไม่ได้เห็นสินค้าจริงก่อนสั่งซื้อ ดังนั้น Online to Offline จึงเป็นกลยุทธ์แนวรุกการตลาดเพื่อดึงจุดแข็งของการตลาดออนไลน์และการตลาดออฟไลน์เข้าด้วยกัน เพื่อเสริมทัพให้ธุรกิจมีการจัดการที่ดีและสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าได้มากที่สุด
ทำไมต้องเดินไปพร้อมกัน
เพราะผู้บริโภคไม่ได้อยู่แค่ในโลกออนไลน์ หรือ ออฟไลน์เท่านั้น แต่ใช้ชีวิตอยู่ในทั้ง 2 โลก ซึ่งปัจจุบัน ตลาดการซื้อขายออนไลน์ของไทยมีมูลค่าตลาดประมาณ 2-3% ของมูลค่าตลาดค้าปลีกทั้งหมด แม้ตลาดออนไลน์จะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องแต่ตัวเลขนี้แสดงให้เห็นว่ายังมีอีกกว่า 98% ที่ยังคงซื้อขายกันในโลกออฟไลน์ ดังนั้นการทำตลาดแค่ฝั่งใดฝั่งหนึ่งจะไม่สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้ทั้งหมด แต่ Online to Offline จะเป็นการใช้จุดแข็งของการตลาดออนไลน์ในการสร้างความน่าเชื่อถือพร้อมกับการสร้างเครือข่ายชุมชนผู้ที่สนใจ ส่วนออฟไลน์เป็นช่องทางการกระจายสินค้าสู่ลูกค้าโดยตรง และลดความกังวลของลูกค้าเพราะแบรนด์มีที่ตั้งสามารถจับต้องได้ เช่น Amazon เป็น E-Commerce ยักษ์ใหญ่ในปัจจุบันเริ่มทดลองโมเดล O2O เปิดร้าน สะดวกซื้อ Amazon Go โดยลูกค้าจะหยิบของแล้วสแกนสินค้าผ่าน App เมื่อได้ของครบตามต้องการแล้ว ก็เดินออกจากร้านได้เลย และยังมีแผนจะเปิดร้านที่เชื่อมโลกออนไลน์กับโลกจริงเพิ่มอีกด้วย
เริ่มจากตรงไหนดี
สำหรับใครที่สนใจกลยุทธ์ Online to Offline แต่ยังไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนดี และต้องการที่ปรึกษาที่มีความรู้ในด้านนี้แบบเจาะลึกต้องไม่พลาดที่จะมางาน SME ONE FEST 2018 ระหว่างวันที่ 6-9 กันยายน 2561 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เวลา 10.00น. – 20.00น. จัดโดย สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ สสว. จัดเต็มกับความรู้ ที่จะเสริมให้ผู้ที่อยากเริ่มต้นธุรกิจ และผู้ประกอบการสตาร์ทอัพไทย สามารถต่อยอดสู่ระดับประเทศและนำไปสู่การต่อยอดในระดับสากล
โดยภายในงาน SME ONE FEST 2018 ที่จะได้พบกับการจัดแสดงสินค้าจากผู้ประกอบการที่เป็นสมาชิกของ สสว. จากทั่วประเทศหลากหลายสไตล์มาจำหน่ายสินค้า รวมถึงการออกบูธจากดารานักแสดงมากมาย เช่น คุณอั้ม–อธิชาติ ผลิตภัณฑ์ทำจากเห็ดซางฮวง คุณนัท มีเรีย ผลิตภัณฑ์ มีเรีย เอจ ล็อก ไวท์ รีเจนเนอร์เรท ครีม คุณเนย โชติกา ผลิตภัณฑ์แป้งCho แป้งเนื้อใยไหมผสมรองพื้น คุณเจี๊ยบ โสภิตนภา อาหารเสริม Lavish Beauty Drink ในราคาสุดพิเศษ กว่า 1,100 บูธ พร้อมกับกิจกรรมให้ความรู้จากผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงการสาธิตการทำอาหารต่างๆ จากผู้ประกอบการ และยังมีการแชร์ประสบการณ์จากบล็อกเกอร์มากประสบการณ์ อาทิ เชฟบุ๊ค บุญสมิทธิ์ ร้าน “ราดหน้าขั้นเทพ” , นางพญาปลวก by miss rain ผู้เชี่ยวชาญในการแต่งหน้า และป้าพิม ผู้เชี่ยวชาญด้านความงาม การแต่งหน้า และการดูแลสุขภาพ อีกทั้งยังมีกิจกรรมสาธิตเครื่องประดับ แฮนด์เมด จากร้าน Nunya Design, สาธิตผลิตภัณฑ์แปรรูปจากดิน จากร้าน CC&C Product, สาธิตผ้าเขียนลายบ้านหัตถศิลป์, สาธิตการทำดอกไม้ประดิษฐ์ทำมือจากวัสดุธรรมชาติ จากบริษัท เทียร่า เด เต้ จำกัด เป็นต้น
###